หน้าหลัก
>

บทความทั้งหมด

April 25, 2024

การประยุกต์ BMC ยกระดับธุรกิจเดิมให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น

เชื่อว่า คนที่กำลังเริ่มต้นทำธุรกิจมาสักพักแล้ว จะมองธุรกิจของตัวเองออก ว่ากำลังไปในทิศทางที่ดี เตรียมรับความสำเร็จ หรือ อาจจะต้องหยุดธุรกิจนั้นลง เพราะผลตอบรับไม่ค่อยดีนัก สิ่งเหล่านี้ มักเป็นเรื่องที่กังวลใจของธุรกิจหลายคน ที่ลงทุนไปแล้ว อยากได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า แต่ถ้ามองกลับมาดีๆ การที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้น ย่อมเริ่มมาจากการวางแผนธุรกิจที่ดี วางกลยุทธ์ทางการตลาดทุกช่องทางอย่างรอบคอบ และเป็นระบบ ถึงจะสามารถย้อนกลับมาดู แก้ไข ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ต่างๆ ให้สอดคคล้องกับธุรกิจได้

ดังนั้น ทุกการทำธุรกิจ จึงควรมีเครื่องมือช่วยวางแผน เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่น เราเรียกเครื่องมือนี้ว่า Business Model Canvas หรือ BMC ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการวางแผนธุรกิจ ทำให้เรารู้ว่า ธุรกิจของเราคืออะไร สามารถอธิบายธุรกิจของตัวเองได้ หาจุดเด่นของธุรกิจให้เจอ และทำให้เราวางกลยุทธ์ได้ว่าคนจะรู้จักสินค้าเราได้อย่างไร คุยกับพาร์ทเนอร์ยังไงให้น่าเชื่อถือ ทุกแผนธุรกิจอยู่ได้ในกระดาษแผ่นเดียว ไม่ต้องเสียเวลาเขียนแผนเป็นร้อย ๆ หน้า ถ้าใครได้รู้จักการทำ Business Model Canvas มั่นใจได้เลยว่า ธุรกิจเดิมจะถูกยกระดับให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นแน่นอน

Business Model Canvas  คืออะไร

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าเครื่องมือ Business Model Canvas (BMC) คืออะไร ถ้าให้นิยามความหมายง่ายๆ Business Model Canvas คือ ภาพรวมของธุรกิจทั้งหมด ที่เราจะทำ หรือกำลังทำ ซึ่งใน Business Model Canvas มีส่วนประกอบสำคัญต่างๆ ที่แสดงให้รู้ว่า ธุรกิจของเราคืออะไร ทำให้เกิดรายได้อย่างไร และมีคุณค่าต่อผู้ใช้ยังไง ทำอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาซื้อหรือใช้บริการซ้ำ สิ่งที่เรากำลังขาย เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ รึเปล่า กลุ่มลูกค้าของเราคือใครกันแน่ ซึ่งส่วนประกอบเหล่านี้ เราทำได้ผ่าน Business Model Canvas แบ่งได้ทั้งหมด 9 ส่วนประกอบ เรามาดูกันว่า มีอะไรบ้าง

  1. Customer Segment คือ กลุ่มแรกที่ต้องเขียนลงไปใน  Business Model Canvas คือ กลุ่มบุคคลหรือบริษัท ซึ่งเป็นกลุ่มที่เรากำหนดให้เป็นเป้าหมาย เพื่อขายสินค้าหรือบริการให้  เป็นการหาว่า ลูกค้าของเราเป็นใคร แยกได้ตาม พื้นที่ เพศ อายุ พฤติกรรม ความสนใจ ฯลฯ เพื่อนำมาวิเคราะห์ให้เกิดสินค้าที่มีคุณค่า เป็นที่ต้องการ เพื่อค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ใช่ที่สุด
  2. Customer Relationships  คือ การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า ส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการเขียน Business Model Canvas เราต้องออกแบบวิธีการรักษาฐานลูกค้าไว้ จากแผน Customer Journey Map เพื่อดูว่า ลูกค้าเกิดปัญหาอะไร เปรียบเทียบกับคู่แข่ง แล้วเกิดการตัดสินใจซื้อ รวมถึงทำอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำให้ได้ ทำความเข้าใจกับขึ้นต้องที่ลูกค้าต้องเผชิญ เพื่อแก้ปัญหาและขยายฐานลูกค้าให้ตรงจุด การเขียน CRM ถือว่า เป็นความยั่งยืนทางธุรกิจเลยก็ว่าได้ เพราะใช้ต้นทุนในการทำการตลาดน้อย และอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้แบรนด์สินค้าเกิด Royal Customer ได้ด้วย
  3. Channel คือ ช่องทางในการส่งมอบคุณค่าถึงลูกค้า ใน Business Model Canvas  ข้อนี้ จะทำให้เราสามารถสื่อสารและเข้าถึงลูกค้าของเราได้ เป็นการเลือกว่าจะเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านช่องทางไหน เช่น เปิดคาเฟ่ เราจะเพิ่มการรับรู้ให้ลูกค้าผ่านช่องทางไหนได้อีก ขยายเพิ่มไปทาง Facebook, Instragram หรือ สร้าง Tiktok ทำคอนเท้นต์เมนูกาแฟสวยๆ หรือบรรยากาศในร้าน ให้คนสนใจอยากมาใช้บริการ 
  4. Revenue Strem คือ กระแสรายได้ ธุรกิจของเรา ทำรายได้อย่างไร แหล่งที่มาได้มาอย่างไร จากการขายสินค้า หรือบริการ เราต้องมีรายละเอียดชัดเจนลงใน  Business Model Canvas ว่าสินค้าของเรามีคุณค่า จนลูกค้ายอมจ่ายด้วยอะไร กระแสรายได้ มี 2 รูปแบบ ได้แก่ Transactional Revenue เป็นการชำระครั้งเดียว  ซื้อครั้งเดียว แล้วรอกลับมาซื้อซ้ำใหม่อีกครั้ง ส่วนอีกแบบ คือ Recurring Revenue เป็นการชำระแบบต่อเนื่อง เช่น การจ่ายตัดผ่านบัตรเครดิตทุกเดือน ทำให้เรามีรายได้เป็นประจำ 
  5. Key Activities คือ กิจกรรมหรืองานที่เราต้องทำ เพื่อให้ธุรกิจบรรลุตามเป้าหมายได้สำเร็จ แล้วเกิดการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ใน Business Model Canvas  เราจะต้องเขียนทุกกิจกรรมหลักที่เราต้องทำ ระหว่างทางสามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมได้ เพื่อให้สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย สินค้า และบริการของเราด้วย โดยประเภทของ Key Activities ได้แก่ Production การออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ การผลิต การส่งมอบงาน Problem Solving มีวิธีบริหารจัดการยังไง หลังขายสินค้าไปแล้ว จะแก้ไขปัญหาลูกค้าได้อย่างไร Platform/ Network มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยของระบบ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น ฯลฯ ที่จะต้องตอบโจทย์การรับรู้ของลูกค้าด้วย
  6. Key Resources คือ ทรัพยากรหลัก ที่จะแสดงรายการปัจจัยการผลิต ใน Business Model Canvas เพื่อดำเนินกิจกรรมธุรกิจต่างๆ ได้อย่างราบรื่น วิเคราะห์ได้ว่าทรัพยากรที่มี จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับสินค้าได้ การมี Key Resources จะต้องมีเรื่องของ Human (คน) Financial (เงิน) Intellectual (การจดสิทธิบัตร)  Physical (สถานที่ อุปกรณ์ เครื่องมือ) เข้ามาเกี่ยวข้อง เพื่อให้เราสามารถจัดการธุรกิจได้อย่างลงตัว 
  7. Key Partner คือ คู่ค้าหลัก หรือกลุ่มพันธมิตรของธุรกิจเรา ใน Business Model Canvas ส่วนนี้เป็นคนที่จะช่วยให้เราดำเนินกิจการไปได้ด้วยดี เพื่อลดความเสี่ยง และขยายอำนาจของธุรกิจ โดยมีพาร์ทเนอร์มาช่วยซัพพอร์ต ไม่ต้องใช้ทรัพยากรของตัวเองทั้งหมด เช่น ทำธุรกิจแอพพลิเคชั่นคอนเท้นต์หนัง ซีรีส์ ก็ต้องมีพาร์ทเนอร์ธุรกิจ เป็นบริษัทหนัง ซีรีส์ต่างประเทศ มาร่วมทำด้วย 
  8. Cost Structure คือ ต้นทุนที่เราต้องระบุ วางแผนโดย Business Model Canvas ประเมินต้นทุนตั้งแต่แรก จนถึงการส่งมอบงาน การดำเนินกิจกรรม การรักษาฐานลูกค้า ธุรกิจสามารถแบ่งความสัมพันธ์ของต้นทุน ได้ 2 แบบ คือ Cost-driven business เน้นกลยุทธ์ของต้นทุน เช่น ธุรกิจต้นทุนต่ำ และ Value- driven business เน้นคุณค่าของสินค้า บริการ เช่น ให้ความสะดวกสบายของลูกค้าเป็นหลัก
  9. Value Preposition คือ เขียนคุณค่าของสินค้า ใน Business Model Canvas ที่ต้องแตกต่างจากคู่แข่ง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ก็ต้องเป็นนวัตกรรมที่แตกต่างจากเดิม แต่หากทำสินค้าที่มีในตลาดแล้ว ก็ต้องโดดเด่น เราต้องให้ความสำคัญของประสบการณ์ผู้ใช้ ที่จะได้รับคุณค่าจากสินค้าและบริการของเรา 

ทั้ง 9 ข้อนี้ เป็นส่วนประกอบสำคัญ ใน Business Model Canvas ที่คนทำธุรกิจ จะต้องเขียนลงไป เพื่อใช้เป็นแนวทาง ปรับธุรกิจเดิม ให้ประสบความสำเร็จมากขึ้น โดยการประยุกต์ใช้ Business Model Canvas เป็นหลัก

ยกตัวอย่าง Case Study  หากเขียนลงใน Business Model Canvas : Apple แบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลก ขายแพง แต่ยอดทะลุเป้าทุกปี 

  1. Customer Segment: กลุ่ม High-end มีกำลังซื้อสูง/ กลุ่มที่ใช้ Apple อยู่แล้วเปลี่ยนทุกปี
  2. Key Activities: ใส่ใจและควบคุมรายละเอียดของ Operation ทุกด้าน มีระบบเฉพาะไม่เหมือนใคร
  3. Cost Structure: ลดต้นทุนจากการทำกล่อง รุ่นหลังไม่ใส่ที่ชาร์จแถม ทำให้กล่องเล็กลง ส่งของไปขายได้มากขึ้น ด้วยต้นทุนเท่าเดิม แต่ขายดี ได้กำไร รวมถึง Apple ไม่ได้ผลิตเอง หาพาร์ทเนอร์ผลิต แต่ Apple ควบคุมคุณภาพ คุมต้นทุนได้ดี, ทำ Marketing & Branding เป็นที่จดจำ
  4. Value Preposition: สมาร์ทโฟนระดับสูง เทคโนโลยีขั้นสูง การใช้งานเสถียรด้วยระบบปฏิบัติการ IOS ที่อัพเดทได้เรื่อยๆ และยังใส่ใจด้วยระบบ Eco System 
  5. Channel: Apple Store
  6. Revenue Strem: ยอดดาวน์โหลดแอพจาก App Store, มี App Developers สำหรับให้นักพัฒนามาเขียนแอพได้เลย แล้วแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน
  7. Key Resources: IOS Platform ของตัวเอง, แบรนด์ที่แข็งแกร่ง, ควบคุม Cost เองได้
  8. Key Partner: มีโรงงานผลิตที่เป็นพาร์ทเนอร์ ไม่ต้องผลิตเอง
  9. Customer Relationships: ด้วยความเป็นแบรนด์ระดับสูง ราคาสูงแต่เทคโนโลยีดีมาก การดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้แล้วคุ้มค่า ลูกค้ามองเห็นคุณค่าของแบรนด์ รักในตัวแบรนด์ และใช้รุ่นต่อๆ ไปของ Apple 

จากตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า Apple ได้คิด Business Model ที่ครอบคลุมทั้งหน้าบ้าน หลังบ้านได้ครบ และชัดเจน แม้จะออกมากี่รุ่น ก็ยังติดตลาดโลก มีคนนิยมซื้อใช้ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน 

สรุปแล้ว ธุรกิจเดิม อยากประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่ยังไม่เคยทำ Business Model Canvas ควรได้ลองทำดู ไม่ยากเลย ทำทุกแผนธุรกิจให้อยู่ใน Business Model Canvas แผ่นเดียว ประยุกต์ใช้ให้เป็น ธุรกิจเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดแน่นอน

หากใครไม่รู้ว่าจะใช้ Business Model Canvas มาลงคอร์ส นี้ BUSINESS MODEL CANVAS ออกแบบแผนธุรกิจ ด้วยการเขียน Business Model “ถ้าธุรกิจจะเจ๊ง ก็ให้เจ๊งแค่ในกระดาษ” สอนการใช้ BUSINESS MODEL CANVAS เปิดมุมมองการวิเคราะห์ธุรกิจ และตัวอย่างจาก Case Study ทั่วโลก พบกันที่ eddu เลย

Copyright ©2024Eddu Group International Co.,Ltd.

คอร์สยอดนิยมด้าน Business

อัปสกิลไปพร้อมกับ Eddu

ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำและคำปรึกษาในการเรียน
ตลอดจนแนะนำหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้เรียน ทั้งบุคคลและองค์กร

ร่วมเป็น Trainer กับเรา

สร้างสรรค์ผลงานออนไลน แบ่งปันความรู้พร้อมกับหารายได้

We use cookies, please see our policy and setting

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram