“เล่าอย่างไรให้ขายได้?” การทำกลยุทธ์การตลาดเพื่อขายสินค้าและบริการ นักการตลาดหลายคนมักให้ความสนใจเฉพาะกับการวางแผนสร้างยอดขาย การปรับและพัฒนา แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่มักถูกมองข้ามแต่จริง ๆ แล้วมันคือสิ่งที่สำคัญอย่างการใส่ใจในเรื่อง Storytelling การสร้างเรื่องราวที่มีประสิทธิภาพเพื่อขายสินค้าและบริการ
การเล่าเรื่องด้วย Storytelling ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในการทำธุรกิจ และแน่นอนว่าเราต้องมีการวางแผนในส่วนนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากใครยังไม่ทราบว่า Storytelling คืออะไร มีความสำคัญกับธุรกิจอย่างไรแล้ว Storytelling มีกี่ประเภท มาหาคำตอบได้จากบทความนี้เลยครับ
Key Takeaways
สารบัญบทความ
Storytelling คือ กลยุทธ์การสื่อสารรูปแบบหนึ่งที่เป็นการกำหนดวิธีการนำเสนอผ่านการเล่าเรื่องราวความเป็นมาของแบรนด์ เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายรู้สึกสนใจในเรื่องราว พร้อมกับแฝงกลยุทธ์การตลาดสำหรับการขายสินค้าและบริการเข้าไปนำเสนอร่วมด้วย โดยการทำ Storytelling สามารถเล่าได้ทั้งในรูปแบบภาพและคลิปวิดีโอ
เราจะมีโอกาสได้พบเจอการเล่าเรื่องราวแบบ Storytelling อยู่บ่อยครั้งและสามารถทำได้ในหลายรูปแบบ ซึ่งถือเป็นโอกาสที่เหมาะสมในการนำเสนอสินค้าผ่านการใช้ Social Media Marketing ในหลายแพลตฟอร์ม เพื่อสร้างโอกาสการมองเห็น การเข้าถึง และการมีปฏิสัมพันธ์ร่วมกับตัวเนื้อหาภายใน Storytelling มากยิ่งขึ้น
การสร้าง Storytelling ที่ดีประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบที่มีความสำคัญและจำเป็นต่อการสร้างเรื่องราวให้เกิดเป็นการทำ Content Marketing ที่น่าดึงดูดและเพิ่ม Awareness ให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี
นอกจากใส่ใจเรื่องขององค์ประกอบที่สำคัญ เราต้องทำความเข้าใจด้วยว่าสิ่งที่เราต้องการจะสื่อสารออกไปเป็นการทำ Storytelling ประเภทไหน ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักด้วยกัน เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ Marketing Communication ที่ส่งความรู้สึกไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด
เป็นการใช้งาน Storytelling ที่เน้นการเล่าเรื่องเฉพาะเจาะไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งนั่นก็คือตัวละครหลักของเรื่องราวนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ในรูปแบบของโฆษณาจะเป็นการเล่าเรื่องจากจุดเริ่มต้นของบุคคลหนึ่งที่อยู่ต่ำสุดและข้ามไปสู่จุดสูงสุด หรือเล่าเรื่องราวในเชิงให้แรงบันดาลใจ
เป็นการใช้งาน Storytelling ที่เจาะจงไปที่การเติบโตของแบรนด์โดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบที่เริ่มต้นจากแนวคิดและต้องการส่งมอบสิ่งดี ๆ ให้กับผู้คนเพื่อแก้ไขปัญหาที่มั่นใจว่าทุกคนต้องเคยเจอ รวมไปถึงการเล่าในเชิงการพัฒนา ขยายสาขา วิธีการฝ่าฟันอุปสรรค เป็นต้น
เป็นการใช้งาน Storytelling ที่เน้นการเล่าเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี ซึ่งจะถูกต่อยอดมาจาก Brand Storytelling ที่นอกจากการสื่อสารกับลูกค้า ยังเป็นการสื่อสารไปถึงพนักงาน พาร์ทเนอร์ คู่ค้า เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น และทุกฝ่ายพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการพาแบรนด์ไปสู่ความสำเร็จ
การเล่าเรื่องที่ดีด้วย Storytelling อาจไม่จำเป็นต้องใช้ทั้ง 3 องค์ประกอบที่ผ่านมา เพราะแต่ละธุรกิจก็มีทั้งเวลาและงบประมาณที่แตกต่างกัน ฉะนั้นสามารถเล่าเรื่องง่าย ๆ ใช้เวลาไม่นาน และยังประหยัดงบประมาณด้วยการถ่ายคลิปสั้นที่ได้รับความนิยม และอาจสร้างแรงดึงดูดเพิ่มเติมด้วยการคิดไอเดียจากกระแสสังคมนำมาปรับใช้ให้เข้ากับการขายสินค้าและบริการจากเรา
ความสำคัญของ Storytelling ที่ทุกธุรกิจควรเลือกใช้ เป็นเพราะพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายที่เปลี่ยนไป จากการเลือกเสพสื่อเป็นคลิปวิดีโอมากกว่าภาพหรือข้อความ อีกทั้งการเล่าเรื่อง Storytelling ในรูปแบบคลิปวิดีโอยังสร้างแรงดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายได้มากกว่า จากการวางองค์ประกอบที่ครบถ้วน
เนื่องจากแต่ละธุรกิจมีการเติบโต การนำเสนอสินค้า และการวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่แตกต่างกัน ฉะนั้นการสร้าง Storytelling เป็นของตัวเองจะมีส่วนช่วยให้กลุ่มเป้าหมายและลูกค้าได้รู้จักถึงตัวสินค้า การบริการ และธุรกิจของเรามากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจได้อีกด้วย
จะเห็นได้เลยว่าการเล่าเรื่องด้วย Storytelling เต็มไปด้วยองค์ประกอบ อีกทั้งยังมีการแยกประเภทอีกหลากหลาย ซึ่งคำถามของใครหลายคนคือแล้วเราควรสร้าง Digital Storytelling อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด พร้อมกับการสร้างยอดขายและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจในระยะยาว สำหรับคำตอบของคำถามถูกรวมไว้ใน 4 เทคนิคการเล่าเรื่อง Storytelling เรียบร้อย โดยจะประกอบไปด้วย
ก่อนเริ่มต้นสร้างเรื่องราวด้วย Storytelling ควรต้องทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของเราก่อนว่าต้องการรับชมอะไร ซึ่งควรจำแนกข้อมูล Data Storytelling ทั้งเพศ อายุ ระดับการศึกษา พฤติกรรม และความสนใจ เพื่อให้เราสามารถกำหนดได้ว่าควรจะมีการสร้างเรื่องราวในรูปแบบไหน
กำหนดเป้าหมายในการสื่อสารว่าเราต้องการเล่าให้ใครดู พูดให้ใครฟัง เพื่อให้เนื้อหา Storytelling ที่เราต้องการจะสื่อสารสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างลึกซึ้งกินใจ ส่งผลให้พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่เรากำลังนำเสนอเป็นสิ่งที่สำคัญและจะเป็นต้องมี
เริ่มต้นวางโครงเรื่องด้วย Storytelling จากองค์ประกอบและประเภทที่เราต้องการนำเสนอ พร้อมกับการกำหนดช่องทางที่เราต้องการจะสื่อสาร ซึ่งแน่นอนว่าควรสื่อสารมากกว่า 1 ช่องทางเพื่อให้เนื้อหาของเราสามารถไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างหลากหลาย
เมื่อได้มีการสื่อสารออกไปแน่นอนว่าก็สามารถตรวจสอบผลลัพธ์ได้ ทั้งยอดการเข้าถึง การรับชม การกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ ฯลฯ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้เราสามารถนำไปวิเคราะห์เส้นทางต่อได้ว่าควรสร้างเรื่องราว Storytelling ออกมาในรูปแบบไหนที่คนดูชื่นชอบ และสามารถเข้าถึงคนดูได้มากที่สุด
จากที่ได้เกริ่นไปว่าเราควรมีการเผยแพร่ Storytelling ที่เราได้ใช้เวลาสร้างขึ้นและขัดเกลาเป็นอย่างดีมากกว่า 1 แพลตฟอร์ม เนื่องจากช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้งานในแต่ละแพลตฟอร์มได้มากกว่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและปิดยอดขายได้มากขึ้น ซึ่งสำหรับแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับการลงเนื้อหา Storytelling จะมีดังนี้
เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนในการทำ Storytelling ที่มีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราหยิบยก Storytelling ตัวอย่างของแบรนด์ Coca-Cola's มาฝากกัน ซึ่งจะเป็นอย่างไร ลองไปดูกัน
ตัวอย่าง Storytelling สินค้าในแคมเปญ Coca-Cola's "Share a Coke"
จะเห็นได้เลยว่าการใช้งาน Storytelling สามารถใช้ได้หลายรูปแบบเพื่อให้เราสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและสร้างยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแบรนด์และกลุ่มลูกค้าให้ยังคงอยู่กับเราไปอีกนาน ซึ่งหากใครต้องการเรียนรู้วิธีใช้ Storytelling แบบเจาะลึก มาสมัครเรียนหลักสูตร Storytelling Shortcut ขายของ 100 บาทให้กลายเป็น 1,000 บาท จากผู้สอนที่มีประสบการณ์ทำธุรกิจมาอย่างยาวนาน รับรองว่าได้ความรู้จัดหนัก ได้ทักษะจัดเต็ม พร้อมกับการนำไปปรับใช้ในธุรกิจของตัวเองอย่างแน่นอน
Copyright ©2024Eddu Group International Co.,Ltd.