การทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็ก หรือใหญ่ ต้องเริ่มต้นด้วยการมีเงินทุน หากมีเงินทุนไม่มาก ก็ต้องคำนวณให้เป็นธุรกิจเล็ก และได้กำไรสมเหตุสมผลกับเงินทุน แต่หากธุรกิจใหญ่มาก ก็ต้องมีเงินทุนมหาศาล รวมไปถึงบางธุรกิจ อาจจะต้องมองหาแหล่งเงินทุน จากนายทุน หรือ ผู้ร่วมลงทุน ซึ่งในบทความนี้ เราจะมีทำความเข้าใจ เกี่ยวกับการหาแหล่งเงินทุน ว่าหาได้จากที่ไหน และจะช่วยอะไรกับบริษัทคุณได้บ้าง การมีเงินทุนจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นจริงหรือไม่ เรามาดูกัน
เงินทุน เปรียบเสมือน "เลือด" ที่หล่อเลี้ยงให้ธุรกิจดำเนินต่อไป และยังเหมือน "เชื้อเพลิง" ที่คอยขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตไปข้างหน้าได้ โดยเหตุผล ที่ธุรกิจจะต้องหาแหล่งเงินทุน มีดังนี้
แน่นอนว่า ผู้เริ่มต้นธุรกิจใหม่ จำเป็นต้องมีเงินทุน 2 ส่วน นั่นก็คือ เงินทุนสำหรับลงทุนในสินทรัพย์ถาวร เช่น อุปกรณ์ เครื่องจักร พื้นที่ และ เงินทุนสำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เช่น เงินเดือน วัตถุดิบ ค่าเช่า หากต้องเป็นการลงทุนในธุรกิจขนาดใหญ่ ยิ่งจำเป็นหาแหล่งเงินทุนสนับสนุน ให้สามารถใช้จ่ายหมุนเวียนสำหรับทรัพย์สินเบื้องต้นได้
2. แหล่งเงินทุน เพื่อขยายธุรกิจ
สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจมาหลายปีแล้ว รู้สึกว่า ธุรกิจกำลังเติบโตไปได้ดีมากๆ ก็ต้องเริ่มมองหาแหล่งเงินทุน ที่จะช่วยสนับสนุน เพื่อขยายธุรกิจไปยังสาขาอื่นๆ มีเงินทุนสำหรับลงทุนในสินทรัพย์ถาวรเพิ่มเติม เช่น ขยายโรงงาน ซื้ออุปกรณ์ใหม่ และเงินทุนสำหรับเพิ่มทุนหมุนเวียน รองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต
ทุกธุรกิจ จำเป็นต้องมีเงินทุนส่วนนี้ไว้ เป็นเงินทุนสำรองสำหรับรองรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ และมีเงินทุนสำหรับชำระหนี้สิน ให้ตรงตามกำหนด ป้องกันหนี้เสีย
แหล่งเงินทุน มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความต้องการของธุรกิจ สามารถหาได้ ผ่านช่องทางต่างๆ ดังนี้
การหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม มีความสำคัญต่อธุรกิจ อย่างมาก เพราะจะช่วยให้ธุรกิจมี "เงินทุน" เพียงพอสำหรับการดำเนินงาน ช่วยให้ธุรกิจ "เติบโต" ได้อย่างรวดเร็ว และ ช่วยให้ธุรกิจ "ยั่งยืน" ในระยะยาว ดังนั้น ธุรกิจควรศึกษา หาข้อมูล เปรียบเทียบ เลือกแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมกับธุรกิจมากที่สุด การจัดการเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังช่วยให้ธุรกิจบรรลุเป้าหมาย ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วด้วย
ก่อนจะหาแหล่งเงินทุน จากนายทุนแหล่งต่างๆ เราจะต้องเข้าใจความแตกต่าง ง่ายๆ กันก่อน ว่านายทุนแต่ละแบบ มีความแตกต่างกันอย่างไร โดยความหมายของการเป็นนายทุน คือ เป็นบุคคลที่มีเงินทุน มักลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองรู้จัก เข้าใจ ลงทุนเพื่อผลตอบแทนระยะยาว เน้นความมั่นคง และมักไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการบริหาร แต่จะเน้นมองผลลัพธ์ที่จะมีกำไรมหาศาล และคืนกลับมายังนายทุนได้
เหมาะกับธุรกิจ Startup ระยะเริ่มต้น ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง ธุรกิจที่ต้องการคำปรึกษา การสนับสนุน เช่น ธุรกิจเทคโนโลยี ธุรกิจนวัตกรรม ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เป็นต้น
ข้อดี
ข้อเสีย
ตัวอย่าง: นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ บุคคลที่มีชื่อเสียง
เหมาะกับธุรกิจ Startup ระยะเริ่มต้นถึงเติบโต ธุรกิจที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และธุรกิจที่ต้องการเงินทุนจำนวนมาก เช่น ธุรกิจ FinTech ธุรกิจ Health tech ธุรกิจ EdTech เป็นต้น
ข้อดี
ข้อเสีย
ตัวอย่าง: บริษัทลงทุน Startup กองทุนร่วมลงทุน
เหมาะกับธุรกิจทุกขนาด ธุรกิจที่ต้องการเงินทุนจำนวนมาก และ ธุรกิจที่มีความมั่นคง เช่น ธุรกิจผลิต ธุรกิจค้าส่ง ธุรกิจบริการ เป็นต้น
ข้อดี
ข้อเสีย
ตัวอย่าง: ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารเฉพาะกิจ
ถือได้ว่า แหล่งเงินทุนเหล่านี้ ถ้าธุรกิจไหน เข้าถึงแล้วได้รับมา ก็จะช่วยส่งเสริมธุรกิจให้เติบโตขึ้นได้อย่างรวดเร็ว แต่ถึงอย่างไร การหาแหล่งเงินทุนให้เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ประเภทธุรกิจ ระยะการเติบโต เงินทุนที่ต้องการ เงื่อนไขการลงทุน และบทบาทของผู้ลงทุนด้วยเช่นกัน
เมื่อตัดสินใจที่จะเริ่มธุรกิจแล้ว อย่าลืมว่าบริษัทต้องมีการเติบโต อย่าลืมวางแผนการเติบโตผ่านการลงทุน และนายทุนเหล่านี้ก็อาจจะเป็น 1 ในปัจจัย ที่จะทำให้ธุรกิจคุณเติบโตขึ้นมากกว่า 1 เท่า สร้างกำไรให้ธุรกิจเพิ่มขึ้นได้อย่างสบายใจ
สำหรับใครที่อยากลงทุนให้เติบโตด้วยความเข้าใจเรื่องแหล่งเงินทุนโดยละเอียด และมีความรู้ในการบริหารการเงิน วิเคราะห์งบการเงินของธุรกิจได้ ลองเข้ามาเรียนกันที่คอร์ส Finance for Entrepreneur by eddu ที่จะพาทุกคนดูบัญชีและยกตัวอย่างแบบครบองค์รวม เรียนจบ การวิเคราะห์งบการเงินของบริษัทคุณจะถูกดำเนินและกำกับดูแลได้อย่างถูกจุดมากขึ้น เปลี่ยนคุณให้ทำธุรกิจด้วยการใช้เงินอย่างคุ้มค่าและมืออาชีพ สมัครเลย!