สำหรับการทำธุรกิจความงามเเล้ว ต่อให้มีเครื่องมือดีมากขนาดไหน หรือมีสินค้าเเละการบริการที่ดีมากก็ตาม เเต่ถ้าคุณไม่สามารถที่จะสื่อไปถึงลูกค้าที่จะมาใช้การบริการของคุณได้เลย ก็ไม่ต่างกับการที่คุณกำลังลงทุน ลงเเรงทำธุรกิจ เเบบไม่มีข้อมูลอะไรเลย

ในตอนนี้ที่ธุรกิจความงามมีการเเข่งขันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจต้องทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่มีการเเข่งขันสูงเเบบนี้ ?

👉 Data จึงเป็นคำตอบหนึ่งของคำถามนี้ เพราะในปัจจุบันธุรกิจต้องใช้ข้อมูลในการขับเคลื่อนเพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพราะ Data คือสิ่งที่จะทำให้คุณที่ทำธุรกิจด้านความงาม รู้จักลูกค้าของคุณได้จริงๆ

ยิ่งคุณมี Data มากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งรู้จักลูกค้าที่จะมาใช้บริการของคุณมากขึ้นเท่านั้น เพราะถ้าคุณไม่รู้จักลูกค้าของคุณเลย ถือว่าเป็นเรื่องยากมากๆ ที่คุณจะทำธุรกิจในยุค Digital เเบบนี้

ซึ่งการที่จะเลือกใช้ Data ทั้ง 5 ตัวนี้ ก็จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของธุรกิจด้วย ว่าคุณต้องการข้อมูลเเบบไหน แต่วันนี้จะมายกตัวอย่างให้ดูว่าคลินิกเสริมความงามควรเก็บข้อมูลอะไรบ้าง

1.Awareness คือการรับรู้ของลูกค้า คุณต้องรู้ว่าเมื่อพูดถึงแบรนด์ของคุณ ลูกค้ารู้จักในทันทีเลยหรือเปล่า ซึ่งสำหรับ Data ในส่วนนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ ว่าควรลงทรัพยากรในการทำเพิ่มขึ้นหรือลดลง

2.จำนวนผู้ใช้บริการ สำหรับ Data ตัวนี้จะทำให้คุณรู้ว่า ในแต่ละวันแต่ละเดือนหรือแต่ละปี คุณมีลูกค้าของคุณมากน้อยเท่าไหร ซึ่งมันสามารถนำมาใช้พิจารณาในการปรับปรุงการบริการ, การทำการตลาด, บรรยากาศในร้าน ฯลฯ

3.การชำระต่อรอบบริการ สำหรับ Data ตัวนี้จะช่วยให้คุณเห็นพฤติกรรมของลูกค้าในการซื้อบริการของคุณ คุณสามารถนำไปปรับปรุงและพัฒนากระบวนการในการ Upsell ได้ และนอกจากนี้มันยังช่วยกรองเกรดลูกค้าให้คุณ เพื่อใช้ในการทำ CRM ได้

4.อัตราการเลิกใช้ คือการที่คุณต้องหาข้อมูลที่จะทำให้ลูกค้าสนใจใช้บริการคุณอีกครั้ง เพื่อเป็นการลดโอกาสที่คุณจะเสียลูกค้า เช่นคุณต้องรู้ว่าทำไมลูกค้าถึงเลิกใช้บริการ หรือทำไมถึงใช้บริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาปรับใช้ให้ธุรกิจของคุณสามารถดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการได้อีก

5.Retention คือการที่คุณต้องหาข้อมูลที่จะทำให้ลูกค้าเลือกที่จะกลับมาใช้บริการอีกครั้ง เป็นการสร้างอัตราการซื้อซ้ำให้กับธุรกิจ เช่น การนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าสนใจจริงๆ นี่คือจุดหลักสำคัญของ Retention คุณจะต้องมีข้อมูลของลูกค้าที่ใช้บริการ เพื่อที่จะทำให้เกิด Retention ขึ้นมาได้

👉 จะเห็นได้ว่า 5 ข้อมูลนี้คุณจะสามารถหาได้ตั้งเเต่ที่คุณเริ่มมี ลูกค้าคนเเรกที่มาใช้บริการกับธุรกิจของคุณ ถ้าคุณรวมรวบข้อมูลเหล่านี้จนมีมากพอ คุณจะสามารถรู้ได้ว่า กลุ่มลูกค้าของคุณคือใคร มีความต้องการเเบบไหน เเละอีกหลายสิ่งที่ข้อมูลจะทำได้ เพื่อให้คุณได้เปรียบมากกว่า และชนะใจลูกค้าของคุณได้ดีกว่า

ถ้าคุณคือผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจคลินิก ที่อยากรู้ข้อมูลทั้ง 5 ตัวมากกว่านี้ จนไปถึงต้องการรู้ว่าเก็บ Data เเบบไหนถึงจะดี แล้วต้องนำ Data ที่มีมาใช้ประโยชน์เเบบไหนเพื่อให้ดีกับธุรกิจของคุณจริงๆ คุณสามารถมาเรียนรู้เพิ่มเติมได้ในคอร์สสด Data Driven Strategy หลักสูตรที่จะช่วยให้คุณใช้ Data ขับเคลื่อนธุรกิจคุณเเบบก้าวกระโดด

คลิกเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติม

👉 ในปัจจุบันองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Data ตั้งเเต่การรวบรวมข้อมูลไปจนถึงการนำมาใช้ในการตัดสินใจ มักจะเป็นองค์กรที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และนี่อาจจะเป็นกุญแจสำคัญดอกหนึ่ง 🔑 ที่ถ้าคนทำธุรกิจขาดไป ก็จะทำให้คุณไม่สามารถอยู่ในยุคที่มีการเเข่งขันสูงเเบบนี้ได้ 🎯 นี่จึงเป็นเหตุผลที่ ทำไมผู้บริหาร ถึงต้องใช้ Data เพราะ Data คือความจริง เป็นข้อมูลที่ผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจสามารถนำมาใช้ในการตัดสินใจเเละวัดผลได้

👉 และที่สำคัญ Data ไม่เพียงเเค่ช่วยในการตัดสินใจเท่านั้น เเต่คุณยังสามารถนำ Data มาใช้ในการบริหารองค์กร หรือใช้เพื่อการดูแลพนักงานได้ เพราะเหตุนี้ Data จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริหารจะมองข้ามไม่ได้

3 เหตุผลว่าทำไมผู้บริหารหรือเจ้าของธุรกิจ ไม่ควรมองข้าม Data

  1. คุณสามารถนำมาปรับใช้กับพนักงานของคุณได้
    เพื่อให้คุณสามารถติดตามงาน หรือเข้าใจพฤติกรรมของพนักงานในองค์กรของคุณมากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน เเละการดูเเลพนักงาน ❤️ เพราะการที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับพนักงานของคุณเลย คุณอาจจะเสียพนักงานของคุณไปโดยที่คุณไม่รู้ตัว
  2. คุณจะเข้าใจลูกค้าของคุณมากขึ้น
    เมื่อคุณมีพฤติกรรมของลูกค้าคุณ เป็น Data แล้ว ก็ถือว่าธุรกิจของคุณก็ย่อมมีความได้เปรียบ เพราะ เมื่อคุณมีข้อมูลที่มากพอ คุณก็จะรู้ได้ว่าลูกค้าของคุณต้องการอะไร และหากคุณสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ได้เเบบถูกวิธี 📊 คุณก็จะเข้าใจลูกค้าของคุณมากขึ้น รู้ว่าลูกค้าของคุณชอบอะไร มีพฤติกรรมเเบบไหน เพื่อให้คุณสามารถปิดการขายได้ รวมไปถึงการนำ Data 🌐 ที่มีมาสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดได้ เช่น การทำ ให้ลูกค้าที่เป็นขาจร เปลี่ยนเป็นลูกค้าขาประจำ หรือการที่ต่อให้คุณทำสินค้าใหม่ออกมา ก็จะการันตีได้ว่ายังไงก็ปัง!!
  3. คุณจะสามารถก้าวทันความเปลี่ยนแปลง
    Data ที่คุณมีสามารถบอกได้ว่า เทรนด์เเบบไหนดี เทรนด์เเบบไหนไม่ดีสำหรับธุรกิจคุณ เพื่อให้ Data เป็นตัวช่วยในการบริหารความเสี่ยงให้กับธุรกิจ 📈 เพราะ Data จะเป็นทั้งเครื่องมือในการลดความเสี่ยง และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น

ตัวอย่างธุรกิจระดับโลกที่นำ Data มาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Netflix มักจะนำเสนอหน้าเเรกเป็นคอนเทนต์ที่ถูกใจคนดู หรือมักจะทำให้คนดูสนใจได้เสมอ เป็นเพราะว่า Netflix ได้ใช้ Data ในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานเเต่ละคน เพื่อที่จะนำเสนอคอนเทนต์ที่คุณจะสนใจ และไม่เพียงเเค่ใช้ในการนำเสนอ เเต่ยังสามารถใช้ Data ในการผลิตภาพยนต์ที่ตรงใจผู้ใช้งาน

อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอย่าง McDonald’s คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมไม่ว่าจะเปิดร้านกี่สาขา ก็ประสบความสำเร็จ และทำอาหารได้ถูกปากคนทานตลอด เป็นเพราะว่า McDonald’s ใช้ Data ในการปรับปรุงทั้งสินค้าเเละบริการ

.

ในตอนนี้ที่ทุก ๆ อย่างสามารถมาเป็น Data ให้กับเราได้ มันคือยุคที่เราเเข่งขันกันช่วงชิงข้อมูล เพื่อสร้างโอกาสให้กับธุรกิจมากที่สุด และการที่ธุรกิจมี Data เป็นตัวขับเคลื่อน Data เหล่านี้จะทำให้คุณชนะเกมการตลาด ในประเภทธุรกิจที่คุณกำลังเเข่งขันอยู่

และถ้าหากคุณสนใจหรือต้องการที่จะศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Data เพื่อนำมาใช้ในการบริหารธุรกิจ สามารถมาเจอกันได้ใน คอร์สสด Data Driven Strategy หลักสูตรที่จะช่วยให้คุณมีข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อน ในการทำธุรกิจ และใช้ Data สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าในระยะยาวได้ สนใจรายละเอียดคลิกที่รูปภาพได้เลย

คลิกเพื่อรับรายละเอียดเพิ่มเติม

We use cookies, please see our policy and setting

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save
linkedin facebook pinterest youtube rss twitter instagram facebook-blank rss-blank linkedin-blank pinterest youtube twitter instagram