รวมภาพบรรยากาศความประทับใจในค่ำคืนที่ผ่านมา กับงาน The X Clusive Charity Dinner Talk ที่จัดไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2566 ที่ห้องอาหาร Medinii Panorama Restaurant โรงแรม The Continent Bangkok
บรรยากาศเต็มไปด้วยความรู้ และความอิ่มเอมจากการร่วมทำบุญให้กับหน่วยงานต่างๆภายในงานจัดแบบ Private ที่เราจัดเต็มให้พิเศษเฉพาะแขกคนสำคัญ อย่างศิษย์เก่า XMBA แบบ Xclusive ได้เต็มอิ่มทั้งบุญและความรู้ พร้อมได้ Connection ที่ดีมากมาย
Charity Dinner ครั้งนี้ ได้รับเกียรติจาก เสี่ยป๋อง วัชระ แก้วสว่าง เซียนหุ้นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย และ คุณนพ พงศธร ธนบดีภัทร President - Eddu ที่ถึงแม้ทั้งสองท่านจะมีคิวตารางงานที่แน่นมากๆ แต่ก็ยังให้เกียรติมาร่วมรับประทานอาหาร และพูดคุย ให้ความรู้ พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับแขกคนสำคัญของเราแบบจัดเต็ม
ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดี และมาทำบุญร่วมกันนะคะ บางท่านอาจจะติดงาน ติดธุระสำคัญ และมีตารางงานส่วนตัวที่แน่นมากๆ แต่ก็ยังสละเวลามาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
สำหรับท่านไหนที่พลาด Event นี้ ไม่ต้องเสียใจนะคะ ทาง eddu เราพร้อมที่จะจัด Event ดีๆ เพื่อให้ทุกท่านได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ดี และพบปะสังสรรค์ด้วยกันอีกแน่นอน
ทุกท่านสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางหน้าเพจ : Executive Education by Eddu ไว้มาพบกันใน Event หน้านะคะ รับรองว่า Exclusive ทุกงานแน่นอน
#XMBA #XMBAalumni #XMBACharitydinner
PEAK Corporation Company Limited (www.peakaccount.com) ร่วมมือ eddu Group International (www.eddu.org) จัดงานสัมนาออนไลน์ส่งต่อความรู้ด้านการตลาด และการสร้างแบรนด์ เพื่อการต่อยอดให้กับธุรกิจ ผ่านแอปพลิเคชัน Zoom โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม
งานสัมนาออนไลน์ครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก “คุณนพ พงศธร ธนบดีภัทร” CEO & CO-Founder บริษัท eddu Group International และบริษัท FINNX (www.refinn.com) ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาด้านธุรกิจ รวมถึงวิทยากรให้องค์กรชั้นนำของประเทศไทย มาเป็นวิทยากรหลักในงาน ที่จะพูดให้ความรู้ พร้อมแชร์ประสบการณ์ตรง เจาะลึกในเรื่องการตลาด และการสร้างแบรนด์เพื่อนำไปใช้ต่อยอดให้กับธุรกิจได้อย่างตรงจุด
โดยในงานจะมีการแจกสิทธิพิเศษสำหรับผู้เข้าร่วม ลุ้นรับหลักสูตรธุรกิจออนไลน์ Shortcut MBA ฟรี จำนวน 2 รางวัล ซึ่งงานจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 29 สิงหาคม 2566 เวลา 13.00 - 15.00 น. สามารถลงทะเบียนออนไลน์ และติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Fanpage : MBA Master Business Academy
บริษัท ไลน์ คอมพานี (ประเทศไทย) จํากัด ร่วมมือกับทาง eddu Group International (www.eddu.org) พร้อมส่งต่อสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า LINE Official Account ที่สนใจเรียนหลักสูตรธุรกิจออนไลน์ของ eddu ผ่านช่องทาง LINE Family Club ด้วยส่วนลดหลักสูตรสุดคุ้มที่ควรค่าแก่การซื้อที่ลงทุนเพียงครั้งเดียว แต่สามารถนำไปต่อยอดให้ธุรกิจได้ตลอดไป
โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิพิเศษมากกว่าที่เคยเพราะทาง LINE Family Club และ eddu พร้อมแจกโค้ดส่วนลดมากถึง 300 สิทธิ์ เพียงลูกค้านำสิทธิ์นี้ไปแจ้งกับทาง LINE Official Account ของ eddu รับส่วนลดทันที 10% สำหรับ 2 คอร์สเรียนออนไลน์ยอดนิยมในหลักสูตร Shortcut MBA และ หลักสูตร Digital Marketing
LINE Family Club เป็นเหมือนคลับความสุขของคนทำธุรกิจที่คัดสรรและรวบรวมสิทธิประโยชน์ให้ธุรกิจที่ใช้ LINE Official Account เพื่อเข้าถึงข้อมูล ข่าวสาร กิจกรรม และสิทธิพิเศษที่ช่วยเพิ่มความรู้ เพิ่มกำไร เพิ่มความสุขให้ธุรกิจโตไปพร้อมกัน
ซึ่งการที่ LINE Family Club ร่วมมือกับ eddu Group International มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า LINE Official Account เพียงแค่นำโค้ดส่วนลดมาใช้สิทธิ์ซื้อหลักสูตรธุรกิจออนไลน์ของทาง eddu ที่นำทีมสอนโดย “อาจารย์นพ พงศธร ธนบดีภัทร” CEO & CO-Founder บริษัท eddu Group International และบริษัท FINNX (www.refinn.com) ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาด้านธุรกิจ รวมถึงวิทยากรให้องค์กรชั้นนำของประเทศไทย จึงถือโอกาสนี้เป็นการบอกต่อช่องทางในการเพิ่มความรู้ และเพื่อนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดให้กับธุรกิจเติบโตได้อีกทางนึง
โค้ดส่วนลดนี้จะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม - 31 ตุลาคม 2566 เป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยมีจำกัด 300 สิทธิ์ หากลูกค้า LINE Official Account ท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อกับ LINE Official Account ของ eddu และติดตามรายละเอียดสิทธิพิเศษเพิ่มเติมผ่านทาง LINE Family Club ได้เลย
บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผนึกกำลังกับ eddu Group International (www.eddu.org) ร่วมสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยข้อมูล จากเครื่องมือ ZOCIAL EYE พร้อมเปิดตัวทีม “ZOCIAL EYE TRAINER” หรือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องมือ ZOCIAL EYE ที่จะมาช่วยปลดล็อกศักยภาพของการใช้งานข้อมูล และสร้างข้อได้เปรียบให้กับธุรกิจ
ZOCIAL EYE คือเครื่องมือที่จะช่วยผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กในการดึง Data ซึ่งปัจจุบัน ZOCIAL EYE เป็นเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลโซเชียลมีเดีย ของไวซ์ไซท์ ที่ให้บริการลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ประมาณ 350 - 400 ราย
คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไวซ์ไซท์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ธุรกิจขนาดเล็กมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเจริญเติบโตและพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 35% ของ GDP รวมของประเทศในปี 2565 แต่ด้วยข้อจำกัดด้านทรัพยากร การเงิน และคน ทำให้ศักยภาพในการแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่อาจไม่เพียงพอ เราเองในฐานะบริษัท SME และผู้ให้บริการข้อมูล เข้าใจ และเห็นถึงข้อจำกัดนี้ และมองว่า “ข้อมูล” จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจ รวมถึงการฟังเสียงของผู้บริโภคบนโลกออนไลน์จะเป็นทางลัดที่ทำให้เข้าใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น”
ซึ่งทีม ZOCIAL EYE TRAINER แต่ละท่านมีความเชี่ยวชาญที่หลากหลาย โดยจะใช้เครื่องมือ ZOCIAL EYE มาช่วยเสริมสร้างธุรกิจผ่านบทเรียน คำแนะนำ และอื่น ๆ เช่น การทำโฆษณาออนไลน์, การขายของ และวางกลยุทธ์การตลาด, การทำคอนเทนต์, การทำรายงาน (Report)
โดยผู้ประกอบการสามารถเลือกเรียนกับผู้สอนได้ตามความเหมาะสมของธุรกิจรวมถึงจะมาช่วยฝึกอบรมแนะนำการใช้งานเครื่องมือ ZOCIAL EYE เพื่อส่งเสริมให้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กสามารถขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลในราคาที่เข้าถึงได้ โดยเฉลี่ยต่อวัน 89 บาทต่อวันเท่านั้น
และหนึ่งในทีม ZOCIAL EYE TRAINER นั่นก็คือ “คุณนพ พงศธร ธนบดีภัทร” CEO & CO-Founder บริษัท eddu Group International และบริษัท FINNX (www.refinn.com) ผู้เชี่ยวชาญ และที่ปรึกษาด้านธุรกิจรวมถึงวิทยากรให้องค์กรชั้นนำของประเทศไทย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ต่อยอดแนวคิดขับเคลื่อนตลาดทุนไทย สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการ SET ESG in Action โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยเริ่มจากภายใน สู่ความยั่งยืนอย่างมูลค่า พร้อมจับมือกับ Eddu Group International (www.eddu.org) จัดหลักสูตรอบรม Perfect Pitching & Storytelling เพื่อต่อยอดความรู้ให้นักศึกษาฝึกงาน ในโครงการ SET Internship Academy 2023
โดยได้รับเกียรติจาก “อาจารย์นพ พงศธร ธนบดีภัทร” CEO & CO-Founder บริษัท Eddu Group International และบริษัท FINNX (www.refinn.com) ผู้สร้างประสบการณ์ Pitching นำเสนอไอเดียธุรกิจ Startup จนตราตรึงใจคนนับไม่ถ้วนตลอดหลายปีที่ผ่านมา และทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็ว มีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
หากถามว่า เทคนิกการ Pitching และการเตรียมความพร้อมของข้อมูลในการ Pitch สำคัญอย่างไร เราคงเห็นได้ผ่านตัวอย่าง จากธุรกิจ Startup มากมาย ที่จำเป็นต้องฝึกซ้อมและเตรียมตัวเป็นอย่างดี เพราะด้วยโอกาส และระยะเวลาที่จำกัด ที่จะเป็นตัวกำหนดแนวทางของบริษัทในอนาคตได้
โดยอาจารย์นพ พงศธร ได้ให้เคล็ดลับในการเตรียมตัว Pitching สามารถเริ่มด้วย 5 ขั้นตอนดังนี้
หากสามารถเริ่มต้นและทำตามขั้นตอนนี้ได้ ก็จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมประยุกต์ใช้ทั้งในเรื่องการทำงาน และการทำธุรกิจได้ และภายในงานยังมี Highlight สำคัญ ที่อาจารย์นพ พงศธร ได้ร่วมเป็นที่ปรึกษา ให้กับนักศึกษาได้ฝึกการ Pitching อย่างใกล้ชิดอีกด้วย
15 มิถุนายน 2566 : นายวรเทพ มงคลวาที ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอที จำกัด ลงนามความร่วมมือในการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ กับ นายพงศธร ธนบดีภัทร Chief Executive Officer (CEO) บริษัท เอ็ดดู กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ณ บริษัท เออาร์ไอที จำกัด
โดยภายใต้ความร่วมมือนี้ มุ่งเน้นที่จะช่วยพัฒนา และเสริมสร้างทักษะทางดิจิทัล ตั้งแต่ระดับพื้นฐานจนถึงระดับเชี่ยวชาญเฉพาะโปรแกรมให้กับบุคลากรคนทำงานทุกตำแหน่งงาน เพื่อตอบโจทย์ให้กับทุกธุรกิจสามารถขับเคลื่อนและเกิดผลลัพธ์ตรงตามเป้าหมายขององค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วน ทุกองค์กรจึงจำเป็นต้องมีคนทำงานที่มีทักษะดิจิทัลอย่างถูกต้องและเป็นมาตรฐาน พร้อมรับกับสถานการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผ่านกระบวนการถ่ายทอดองค์ความรู้ และการทดสอบวัดผลด้วยเครื่องมือและระบบที่เป็นมาตรฐานสากล
ภายใต้การสร้างมาตรฐานทักษะทางดิจิทัลระดับสากลที่สำคัญต่อทุกองค์กรนั้น ครอบคลุมทั้ง Hard Skill และ Soft Skill ภายใต้มาตรฐานใบรับรองที่หลากหลายทักษะ ดังนี้
สถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) ร่วมกับ EDDU Group International จัดหลักสูตร "Data for Entrepreneur" ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจ พร้อมวิทยากร "อาจารย์นพ-พงศธร ธนบดีภัทร" CEO&CO-Founder บริษัท FINNX เจ้าของธุรกิจ Startup เบอร์ต้นของเมืองไทยผู้นำ Data มาใช้ในการทำงานจนทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมีมูลค่ามากกว่า 500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
รองศาสตราจารย์ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT) เปิดเผยว่า iNT ได้ร่วมกับ EDDU Group International (www.eddu.org) จัดหลักสูตร "Data for Entrepreneur" ให้กับนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความสนใจทางด้านธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจากอาจารย์นพ พงศธร ธนบดีภัทร CEO&CO-Founder บริษัท FINNX (www.refinn.com) ซึ่งเป็นธุรกิจ Startup ที่มีการนำ Data มาใช้ในการทำงานจนทำให้บริษัทเติบโตอย่างรวดเร็วและมีมูลค่ามากกว่า500 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปีและยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
โดยหัวใจสำคัญของการใช้ Data มาพัฒนาธุรกิจในปัจจุบันประกอบด้วย การทำ Data Analytics และการทำ Data Visualization ไปสร้างให้เกิด Data Driven Marketing ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ นอกจากนี้ผู้บริหารรุ่นใหม่มักให้ความสำคัญกับ Data Analytics เพราะเป็นการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจมองเห็นโอกาสใหม่ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ ในหลายองค์กรยังนำ Data มาช่วยคิดกลยุทธ์ต่างๆ ที่สามารถเพิ่มยอดขายได้มากกว่าปกติจนทำให้ธุรกิจโตขึ้นอย่างก้าวกระโดดในทางการตลาดนั้น Data ก็มีบทบาทช่วยสร้างแคมเปญการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพราะ Data ช่วยให้เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย พร้อมกับทำให้รู้แนวโน้มพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งมีส่วนช่วยสร้างแคมเปญมารองรับพฤติกรรมเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี
สำหรับขั้นตอนการทำ Data Analytics สามารถเริ่มด้วย 6 ขั้นตอนเบื้องต้นดังนี้ 1. รู้จักและเข้าใจปัญหาของธุรกิจ, 2. มีการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับปัญหา, 3. จัดข้อมูลอย่างเป็นระบบ พร้อมกับตรวจเช็กข้อมูลให้ถูกต้อง, 4. ทำการวิเคราะห์ข้อมูลและสร้างข้อมูลเชิงลึกในรูปแบบต่างๆ, 5. นำข้อมูลที่ได้ไปปรับใช้และทดลองใช้ และ 6. ติดตามผลลัพธ์และนำมาปรับปรุง ทั้งนี้หากสามารถเริ่มต้นและทำตามขั้นตอนนี้ได้ก็จะช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นเพียงแค่รู้จักการใช้ Data ซึ่งถือเป็นสิ่งที่นักธุรกิจรุ่นใหม่หรือคนที่สนใจด้านนี้ควรให้ความสำคัญ
"อีกหนึ่งตัวอย่างให้เห็นภาพของการนำ Data มาใช้หากวันนี้คุณเป็นผู้บริหารขององค์กรและได้รับโจทย์มาจากนักลงทุนว่าต้องเพิ่มยอดขายให้ได้มากขึ้นอย่างน้อย 2 เท่า หากลองคิดแบบเร็วๆ ก็อาจจะใช้วิธีเน้นเพิ่มลูกค้า สมมติปกติธุรกิจสามารถสร้างยอดขาย 1 ล้านบาท จากลูกค้า 1,000 คน และโจทย์ก็คือต้องได้ยอดขายมากขึ้น 2 เท่า นั่นก็คือต้องทำให้ได้ยอดขายอย่างน้อย 2 ล้านบาท หากเลือกใช้วิธีเน้นเพิ่มลูกค้า ก็ต้องหาลูกค้าเพิ่มอีก 1,000 คน และทีมที่จะมารับผิดชอบงานส่วนนี้ ก็คือทีมการตลาด พร้อมกับต้องเพิ่มงบให้ทีมการตลาดในการหาลูกค้าเพิ่มขึ้นอีกด้วย แต่ในความจริงแล้วการทำธุรกิจนั้นมีหลายตัวแปรไม่ใช่แค่การเพิ่มงบการตลาดแล้วจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเพียงอย่างเดียว อย่างเช่นร้านสะดวกซื้อเจ้าใหญ่ในไทยที่ทุกคนรู้จักดี ก็มีการจัดแคมเปญในเรื่องของการสะสมแสตมป์ในช่วงปลายปีซึ่งตรงนี้เป็นการทำให้ลูกค้าอยากซื้อสินค้ามากขึ้นแถมยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาถี่มากขึ้นด้วย เช่น ถ้าลูกค้าต้องการที่จะซื้อแชมพู แต่อยู่ในช่วงสะสมแสตมป์และทุกครั้งที่ซื้อครบอย่างน้อย 40 บาทก็จะได้แสตมป์1 ดวง ร้านสะดวกนี้ก็อาจจะเป็นตัวเลือกหลักที่ลูกค้ากลับมาซื้อ แคมเปญนี้ทำให้ร้านสะดวกซื้อประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้าและการเพิ่มยอดซื้อสินค้าต่อบิล" รองศาสตราจารย์ดร.ยศชนัน กล่าว
อย่างไรก็ตามสำหรับปัจจัยหลักที่ทำให้แคมเปญดังกล่าวประสบความสำเร็จได้นั่นก็คือการวิเคราะห์จากข้อมูลและพิจารณาว่าตัวแปรใดที่ทำให้เป้าหมายสำเร็จได้ซึ่งนี่ก็คือตัวอย่างของการใช้ Data มาวิเคราะห์แล้วนำมาวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่เรียกว่า Data Driven Marketing การใช้ประโยชน์จาก Data นั้นสามารถทำได้หลายมิติไม่ว่าจะเป็นการทำ Data Analytics หรือ Data Visualization ซึ่งเป็นอีกวิธีที่ดีในการนำมาเสริมสร้างธุรกิจให้แข็งแรงขึ้น ใน Workshop ครั้งนี้จะพูดถึงประเด็นสำคัญของการนำ Data มาสร้างโอกาสทางธุรกิจ พร้อมยกตัวอย่างให้เข้าใจมากขึ้น
นอกจากนี้ภายในงานยังมี Highlight สำคัญที่อาจารย์นพ พงศธร ได้ร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับนักศึกษาได้ฝึกการนำเสนอข้อมูลอย่างใกล้ชิดเพื่อเป็นไปตามแผนพัฒนาธุรกิจ Startup ที่มหาวิทยาลัยมหิดลมุ่งเน้นในการสนับสนุนนักศึกษาให้มี Entrepreneurship และสร้าง Ecosystem ธุรกิจขึ้นมาและอีกหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะทำให้นักศึกษามี Entrepreneurship ที่ดีคือการรู้จักสร้างโอกาสให้ธุรกิจจาก Data เพราะการทำการตลาดแบบเดิมๆ แล้วคาดหวังให้ธุรกิจยั่งยืนนั้นเป็นเรื่องที่ยาก Data จึงเข้ามามีบทบาทในธุรกิจ การตลาด และการบริหาร ซึ่งไม่ใช่แต่องค์กรขนาดใหญ่ที่ใช้ประโยชน์จาก Data แต่ธุรกิจ Startupและ SME ธุรกิจออนไลน์ก็หันมาใช้Data ในการพัฒนาธุรกิจเช่นกัน