การเริ่มต้นทำธุรกิจทุกรูปแบบต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบตั้งแต่เริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทำเลที่ตั้งขององค์กร การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย การผลิตสินค้าและบริการ รวมไปถึงเป้าหมายสูงสุดขององค์กร ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้สามารถทำได้ด้วยการใช้ SWOT
เครื่องมือที่ใช้ได้ดีและมีประสิทธิภาพมากที่สุดอย่าง SWOT Analysis เป็นเครื่องมือที่ทำให้เห็นภาพรวมของธุรกิจตัวเองมากขึ้น ว่าเรามีจุดเด่นอะไร หรือมีจุดด้อยส่วนไหน เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีความละเอียด และเหมาะสำหรับการวางโครงสร้างองค์กรมาก ๆ สำหรับเครื่องมือ SWOT จะเป็นยัง แล้วต้องใช้งานรูปแบบไหน ลองไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
Key Takeaways
สารบัญบทความ
SWOT หรือ SWOT Analysis คืออะไร? SWOT คือเครื่องมือวิเคราะห์ทางธุรกิจทั้งปัจจัยภายในที่เป็นการเปรียบเทียบข้อดี และข้อจำกัดขององค์กรได้อย่างชัดเจน รวมไปถึงยังมีส่วนช่วยให้องค์กรสามารถระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอก เพื่อเตรียมการวางแผนรับมือแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ โดยรวมแล้วถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยตัดสินใจการกำหนดทิศทางของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ซึ่งการดำเนินธุรกิจตามหลักสูตรผู้บริหารสามารถใช้เครื่องมือ SWOT เพื่อวิเคราะห์ธุรกิจของตนเองได้ทั้งหมด รวมไปถึงยังสามารถนำไปใช้ได้กับการวิเคราะห์รายบุคคล เช่น วิเคราะห์ตนเอง วิเคราะห์ทีมงาน เพื่อให้ทราบถึงข้อดีของตนเอง และทราบถึงข้อด้อยที่ควรปรับปรุง ทำให้การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ SWOT กลายเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ระดับบุคคล ไปจนถึงระดับองค์กรเลยทีเดียว
จากที่ได้รู้จักเครื่องมือ SWOT ไปแล้วจะเห็นได้เลยว่าค่อนข้างมีประสิทธิภาพเรื่องการวิเคราะห์ทั้งปัจจัยภายใน และปัจจัยภายนอก ต่อไปเราลองมาเจาะลึกกันว่า SWOT Analysis มีอะไรบ้าง แล้วรายละเอียดของแต่ละตัวเป็นอย่างไร
ตัวอักษร S จากเครื่องมือ SWOT ย่อมาจาก Strengths หมายถึงจุดแข็งขององค์กร หรือจุดแข็งของบุคคลนั้น ๆ ถือเป็นปัจจัยภายในที่ให้เห็นถึงข้อได้เปรียบ หรือ จุดเด่นในสิ่งที่ต้องการวิเคราะห์ เช่น สินค้ามีความทนทานกว่าเจ้าอื่น, มีบริการส่งฟรีทั่วประเทศ เป็นต้น
ตัวอักษร W จากเครื่องมือ SWOT ย่อมาจาก Weaknesses หมายถึงจุดอ่อนขององค์กร หรือจุดอ่อนของบุคคลนั้น ๆ ถือเป็นปัจจัยภายในที่ให้เห็นถึงข้อด้อย หรือ ความเสียเปรียบในสิ่งที่ต้องการวิเคราะห์ เช่น สินค้ามีราคาแพงกว่าเจ้าอื่นในตลาด, ต้องสั่งจำนวนมากถึงส่งฟรี เป็นต้น
ตัวอักษร O จากเครื่องมือ SWOT ย่อมาจาก Opportunities หมายถึงโอกาสในการสร้างความสำเร็จ เป็นปัจจัยภายนอกที่เราสามารถหยิบประโยชน์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในโลกมาใช้งานเพื่อสร้างโอกาสในการทำสิ่งที่คาดหวังสำเร็จได้ตามต้องการ เช่น การหยิบเทรนด์ยอดฮิตในโซเชียลมาใช้เพื่อสร้างการรับรู้ของแบรนด์ เป็นต้น
ตัวอักษร T จากเครื่องมือ SWOT ย่อมาจาก Treats หมายถึงอุปสรรคที่มีต่อการดำเนินงาน เป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามาส่งผลเสียต่อการดำเนินงาน และอาจทำให้ไปถึงเป้าหมาย เช่น เลือกหยิบเทรนด์โซเชียลมาใช้งาน แต่เวลาต่อมาเทรนด์ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบ เป็นต้น
จากที่ได้เห็นภาพรวมของเครื่องมือ SWOT จะเห็นได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ทางธุรกิจได้อย่างมีแบบแผน เพราะนอกจากรู้ปัจจัยภายในที่เป็นจุดเด่น และจุดด้อยขององค์กรแล้ว เรายังทราบถึงปัจจัยภายนอกที่เราสามารถหยิบเครื่องมือบางอย่างมาใช้เพื่อสร้างโอกาสให้ธุรกิจเติบโตหรือเป็นที่รู้จักมากขึ้นได้ แต่ในทางกลับกันก็ต้องระวังอุปสรรคที่อาจเข้ามามีส่วนให้ต้องเกิดปัญหากับองค์กรในภายหลัง
นอกจากนี้สิ่งที่เครื่องมือ SWOT สามารถใช้ได้ผลกับธุรกิจทุกรูปแบบ เพราะการที่ทั้งองค์กรได้ทราบถึงข้อดี ข้อด้อย โอกาส และอุปสรรคร่วมกัน ซึ่งส่งผลต่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อหาทางออกใหม่ ๆ หรือหาทางปรับเปลี่ยนให้องค์กรไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้ ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่เราควรใช้เครื่องมือ SWOT ในการพัฒนาองค์กรให้ไปในทิศทางที่ดียิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ SWOT ด้วยตัวคนเดียวอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะมุมมองจากคนเพียงคนเดียวไม่อาจเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ทั้งหมด อาจมีจุดที่เรามองข้ามแต่คนอื่นมองว่าเป็นจุดที่สร้างปัญหาได้เหมือนกัน ฉะนั้นการใช้เครื่องมือ SWOT ที่ดีที่สุดต้องมีการวิเคราะห์ร่วมกับบุคลากรอื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับการเดินหน้าของธุรกิจ เพื่อที่จะได้เห็นภาพรวมชัดมากยิ่งขึ้น โดยขั้นตอนจะมี ดังนี้
เพราะว่า Leader ของแต่ละแผนกจะเห็นภาพรวมว่าอะไรที่เป็นจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค ซึ่งแต่ละทีมก็จะมีมุมมองที่แตกต่างกันไป ทำให้การใช้เครื่องมือวิเคราะห์อย่าง SWOT จะมีประสิทธิภาพได้มากขึ้น จากความเห็นของแต่ละคนที่หลากหลาย
การที่ Leader แต่ละคนมีมุมมองที่แตกต่างกันไป ส่งผลให้การแสดงความคิดเห็นเพื่อวิเคราะห์จุดแข็ง จุดด้อย โอกาส และอุปสรรค จะสามารถวิเคราะห์ได้อย่างละเอียดและตรงจุดมากที่สุด ช่วยให้การใช้เครื่องมือวิเคราะห์อย่าง SWOT มีความครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
เมื่อได้ความคิดเห็นจาก Leader ของแต่ละทีม ควรทำเป็นบทสรุปขึ้นมาเป็นประเด็นต่าง ๆ เพื่อให้การวงกลยุทธ์ภายในเครื่องมือวิเคราะห์ SWOT เป็นไปตามแผนมากที่สุด ซึ่งจะต้องเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ต่อองค์กร สามารถทำได้จริง และสร้างโอกาสการเติบโตขององค์กรได้
หากได้ความคิดเห็นที่หลากหลายจากบุคลากรเพื่อวิเคราะห์ SWOT ทำให้เราสามารถเข้าใจและเข้าถึงประเด็นต่าง ๆ เพื่อการพัฒนาองค์กรให้ดียิ่งขึ้นได้ ซึ่งประโยชน์ของการวิเคราะห์ด้วย SWOT Analysis คืออะไรบ้าง เราลองมาดูกัน
มาถึงตรงนี้หลายคนจะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพของเครื่องมือ SWOT ค่อนข้างมีประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ทั้งทางธุรกิจ และทางบุคคล แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึงเพิ่มเติมคือเรื่อง ดังต่อไปนี้
การอ่านบทความเพื่อศึกษาเครื่องมือ SWOT เพียงอย่างเดียวอาจไม่เห็นภาพ เราลองมาดูตัวอย่างวิเคราะห์ SWOT ร้านกาแฟ ว่าควรออกมาในรูปแบบใด เพื่อมองหาทิศทางการปรับกลยุทธ์ขององค์กรต่อไป
การใช้เครื่องมือวิเคราะห์ SWOT ตัวอย่างธุรกิจ
Strength (จุดแข็ง, ข้อได้เปรียบ)
Weaknesses (จุดด้อย, ข้อเสียเปรียบ)
Opportunities (โอกาส)
Threats (อุปสรรค)
ทุกองค์ประกอบของเครื่องมือ SWOT สามารถใช้งานได้กับทุกธุรกิจ สามารถหา SWOT Analysis template ได้ทั่วไป ซึ่งมีประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ภาพรวมที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจต่อไป นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและเทคนิคอีกหลากหลายสำหรับผู้ประกอบการที่ควรทราบ หากต้องการเพิ่มความสามารถในการเป็นผู้นำ และรับมือได้ทุกสถานการณ์ ลองเข้ามาเรียนหลักสูตรผู้บริหารจาก eddu รับประกันว่าความรู้เรามอบให้แบบจัดเต็มไม่มีกั๊ก หากสนใจเข้ามาสมัครเรียนได้ที่เว็บไซต์เลย
Copyright ©2024Eddu Group International Co.,Ltd.