ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโตของธุรกิจเรียกได้ว่ามีหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการสร้างจุดขายของสินค้าและบริการที่ไม่เหมือนใครอย่างการใช้กลยุทธ์ USP คืออีกหนึ่งกลยุทธ์ที่หลายธุรกิจเลือกใช้ เนื่องจากการมีจุดเด่นหรือมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งล้วนเป็นตัวช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถจดจำแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้การเริ่มต้นธุรกิจยังต้องมีการใช้กลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ภาพรวมธุรกิจอย่าง SWOT หรือการใช้เครื่องมือวิเคราะห์คู่แข่งด้วย Five Forces Model รวมไปถึงกลยุทธ์อื่น ๆ อีกมาก แต่ในบทความนี้ผมจะพาไปทำความรู้จักกันว่า USP คืออะไร สามารถช่วยสร้างจุดเด่นให้กับแบรนด์ได้อย่างไร เราลองไปดูกันเลย
Key Takeaways
สารบัญบทความ
USP หรือ Unique Selling Point คือ รูปแบบการเสนอขายสินค้าและบริการที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งจะมีการอ้างอิงถึงตัวผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่างและโดดเด่นกว่าคู่แข่งอย่างสิ้นเชิง ซึ่งความสำคัญของการใช้งานกลยุทธ์นี้ขึ้นอยู่กับคำถามที่ว่า “เหตุใดลูกค้าจึงต้องเลือกซื้อสินค้าและบริการของเรามากกว่าอื่น”
เนื่องจากการแข่งขันที่ดุเดือดภายในตลาดเดียวกัน การใช้งาน USP คือตัวช่วยกำหนดความต่างของเรากับคู่แข่งอย่างชัดเจน โดยการกำหนด Selling Point คือสิ่งที่เราจะต้องมั่นใจว่ากลุ่มลูกค้าจะเปลี่ยนมาเลือกซื้อเราอย่างแน่นอน
การใช้งาน USP คือหัวใจสำคัญต่อการแข่งขันในทางธุรกิจ ที่เป็นตัวช่วยนำไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นการเขียนแผนธุรกิจที่สร้างความโดดเด่นและมีความแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาเลือกซื้อสินค้าและบริการของแบรนด์ นอกจากนี้ยังเป็นตัวช่วยในการทำธุรกิจที่สร้างการรับรู้ และสร้างอัตลักษณ์ที่แข็งแกร่ง รวมถึงช่วยให้ธุรกิจของเราสามารถโฟกัสในสิ่งที่มีความจำเป็นเพื่อการตัดสินใจการวางกลยุทธ์การตลาดอย่างถูกต้องและดีที่สุด
ก่อนเริ่มต้นใช้กลยุทธ์ USP จะต้องมีการกำหนดตามองค์ประกอบอย่างชัดเจน เพื่อสร้างความได้เปรียบให้สินค้าและบริการของเราดูมีความน่าสนใจและน่าเลือกซื้อมากกว่าของคู่แข่ง ซึ่งจะมีองค์ประกอบด้วยกันทั้งหมด 6 ข้อหลัก ๆ ด้วยกัน ได้แก่
การสร้างจุดเด่นของสินค้าและบริการให้มีความน่าดึงดูดต่อกลุ่มลูกค้า นอกจากองค์ประกอบที่ต้องทราบ ยังต้องรู้ประเภททั้ง 5 ของ USP ว่ามีอะไรบ้างที่มีความจำเป็นต่อการใช้งาน Unique Selling Proposition ให้เกิดยอดขายที่เพิ่มขึ้น สร้างการจดจำให้ลูกค้ามากขึ้น และขยายฐานลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เราลองไปดูกัน
Unique Selling Proposition หรือ USP คือเครื่องมือสำหรับการใช้งานเพื่อสร้างความโดดเด่นที่มีความจำเป็นและสำคัญต่อการเริ่มต้นธุรกิจ แต่หากยังขาดวิธีการใช้งานให้มีประสิทธิภาพ ก็ไม่อาจสร้างแรงดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้มากพอ ฉะนั้นลองมาศึกษาเพิ่มเติมถึงวิธีการสร้างกลยุทธ์ให้โดดเด่นจากการใช้งาน เครื่องมือนี้กัน
ต้องทำความรู้จักกลุ่มลูกค้าอย่างลึกซึ้ง เพื่อการทำ USP ที่มีประสิทธิภาพ เช่น ลูกค้าชื่นชอบทานรสชาติแบบไหน หรือนำสินค้าของเราไปแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไร เพื่อมองหาวิธีการนำเสนอสินค้าที่สร้างจุดเด่น และตอบโจทย์ความต้องการ
กลับมาวิเคราะห์ถึงการทำธุรกิจของเราว่าเรามีจุดเด่นด้านใดที่สามารถใช้ USP ในการดึงดูดกลุ่มลูกค้าได้บ้าง สามารถผลิตได้ตามต้องการหรือไม่ และมีจุดไหนที่สามารถพัฒนาให้ดีได้มากกว่าคู่แข่ง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันภายในตลาดที่มากขึ้น
กำหนดเอกลักษณ์ของสินค้าที่ไม่เหมือนใครเป็นส่วนสำคัญในการทำ USP มีจุดเด่นและได้เปรียบมากกว่าคู่แข่ง และสามารถตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้มากกว่าอย่างไรบ้าง เพื่อช่วยสร้างแรงดึงดูดให้กลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
การทำ USP จะต้องคงไว้ทั้งคุณภาพและจุดเด่นของสินค้า เนื่องจากลูกค้ายังคำนึงถึงคุณภาพและประโยชน์ในการใช้งานเป็นหลัก ถ้าหากว่า Unique Selling Proposition ของเราราคาดีกว่า แต่คุณภาพต่ำกว่าคู่แข่ง อาจส่งผลให้การทำ USP ไม่มีประสิทธิภาพ
การสื่อสารอย่างสม่ำเสมอพร้อมการใช้งาน USP ในทุกช่องทางมีความสำคัญ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการสร้างความน่าเชื่อถือให้กลุ่มลูกค้า เพื่อช่วยสร้างการจดจำให้แบรนด์ได้ดียิ่งขึ้นจากการทำ USP ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดี
การทำ USP พร้อมกับการพัฒนาสินค้าได้ดีต้องมีการทดสอบและรับฟังความเห็นของลูกค้าเสมอ เพื่อพัฒนาสินค้าและปรับการทำ USP ให้อยู่ในความต้องการของกลุ่มลูกค้าอยู่เสมอ และสร้าง Unique Selling Point ที่เหมาะสมในการเพิ่มยอดขายไปพร้อมกัน
เป็นการทำ USP ที่สร้างค่านิยมของแบรนด์ให้มีจุดยืนที่ชัดเจนในการมอบความคุ้มค่าให้กับกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นตัวช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างแบรนด์และลูกค้าต่อไป
ยกตัวอย่างการใช้งาน Unique Selling Proposition ด้วยบริษัท Delivery เจ้าหนึ่งที่ต้องใช้ทั้งความรวดเร็วในการจัดส่งอาหาร มีดังนี้
แม้การใช้งาน USP จะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างการจดจำ เพิ่มยอดขาย และสร้างแรงดึงดูดให้กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี แต่ก็ยังเป็นเครื่องมือที่ยังมีข้อจำกัดอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็น
การสร้างจุดเด่นของสินค้าและบริการด้วย USP ถือเป็นอีกสิ่งที่ช่วยสร้างแรงดึงดูดให้กับลูกค้า พร้อมช่วยสร้างการเติบโตของธุรกิจได้เป็นอย่างดี แต่แน่นอนว่าต้องสร้างจุดเด่นที่เป็นความต้องการ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นการทำ USP ที่สูญเปล่า หากใครที่ยังไม่รู้ว่าควรใช้งาน USP เพื่อการเล่าเรื่องให้ตัวสินค้าอย่างไร มาสมัครคอร์สเรียน Shortcut Story Telling กับ eddu ได้เลย รับรองว่าเปลี่ยนสินค้าราคา 100 บาท ให้กลายเป็นสินค้าราคา 1,000 บาทได้จากเทคนิคการสร้างเรื่องราวให้กับสินค้าและบริการของคุณ
หากต้องการเรียนรู้วิธีเริ่มต้นธุรกิจให้มากยิ่งขึ้น อาจศึกษาเครื่องวิเคราะห์อย่าง SWOT หรือ Five Forces Model เพิ่มเติม
Copyright ©2024Eddu Group International Co.,Ltd.