ถ้าพูดถึงแบรนด์ กระเป๋า และ รองเท้า ที่ราคาไม่สูง และคุณภาพดี หนึ่งในแบรนด์ที่ขาดไม่ได้ คือ "Charles & Keith" แบรนด์แฟชั่นสัญชาติสิงคโปร์ ที่เข้ามาตีตลาดทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ที่เรามักพบเจอ Shop มากมาย ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ที่มีคนก็ยังคงเดินเข้าร้านแบบไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วง Mid Year Sale หรือในเทศการต่าง ๆ ที่แบรนด์มีประกาศลดราคา ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจ ถึง 5 กลยุทธ์ในการบริหารธุรกิจและการทำการตลาด ของ Charles & Keith ที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ และได้รับความนิมยม มากขนาดนี้
จุดประสงค์ของ แบรนด์ Charles & Keithมีความชัดเจนมากที่ต้องการจะแฟชั่น เป็นสิ่งที่คนเข้าถึงได้ ทางแบรนด์จึงมักจะตั้งราคาที่ไม่แพง แต่ถ้าหากมองเรื่องคุณภาพสินค้านั้น ก็ถือว่าดีเกินราคาเลย และนอกจากนั้นแล้วยังมีการออกแบบที่ทันสมัย ปรับตัวเข้ากับแฟชั่นยุคใหม่อยู่เเสมอ
Charles & Keith มีจุดประสงค์ในการทำธุรกิจที่ชัดเจนมาก ที่ต้องการทำให้ “แฟชั่น” เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทางแบรนด์มักสร้างสรรค์สินค้าอย่างใส่ใจทุกรายละเอียด ทั้งการออกแบบที่ทันสมัย ปรับตัวเข้ากับแฟชั่นยุคใหม่อยู่เสมอ และกำหนดราคาขายที่สมเหตุสมผล หรือหลาย ๆ คนมักพูดว่า คุ้มเกินราคา
ต่อยอดจากการมีจุดประสงค์ที่ชัดเจนของ Charles & Keith ทางแบรนด์เน้นกำหนด Position ในการทำการตลาด โดยสื่อสารด้วย คำว่า “Affordable Luxury” หรือ “ความหรูหราในราคาที่จับต้องได้” โดยสามารถเข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าลูกค้าจะมีรายได้ น้อย ปานกลาง หรือสูง ก็สามารถเป็นเจ้าของ Charles & Keith ได้
ยิ่งกว่านั้น Charles & Keith ยังเน้นให้ความสำคัญกับมาตรฐานการผลิต รวมถึงการรับผิดชอบต่อสังคม การใส่ใจในทุก ๆ กระบวนการผลิตสินค้าที่อาจส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างมาตรฐานของตัวเองไว้ว่า Charles & Keith จะผลิตแต่สิ่งที่ลูกค้าต้องการเท่านั้น
แบรนด์ Charles & Keith ถือเป็นแบรนด์แฟชั่นระดับโลก แบรนด์แรก ๆ ที่สามารถเติมเต็มช่องว่างในตลาดของผู้บริโภคที่มีใจรักแฟชั่นได้เป็นอย่างดี
โดย Charles & Keith ได้วางรากฐานความใส่ใจ เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด โดยเริ่มจากวัฒนธรรมภายในร้านเลยทีเดียว ทางแบรนด์จะเลือกพนักงานหน้าร้าน ที่มีอายุเฉลี่ย (ประมาณ 27 ปี) ซึ่งตรงกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์ เพื่อเข้ามาให้บริการลูกค้าทั้ง การให้คำแนะนำอย่างเป็นมิตร และคอยฟีดแบคพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า รวมไปถึงการให้อิสระกับลูกค้า ที่เข้าใช้บริการภายในร้าน
นอกจากนี้ Charles & Keith ในประเทศต่าง ๆ มักจะเลือกพนักงานที่เป็น Local หรืออยู่ในประเทศนั้น ๆ เข้ามาเป็นพนักงานขาย เพื่อให้สามารถเข้าใจตลาดในแต่ละพื้นที่ และมองเห็นภาพความต้องการของลูกค้าและความนิยมของประเทศนั้น ๆ มากขึ้น
Charles & Keith ถือเป็นบริษัทค้าปลีก รายแรกในสิงคโปร์ที่เปิดตัวร้านค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้ช่วยลดข้อจำกัดในเรื่องของจำนวนสาขาหน้าร้านที่ไม่ครอบคลุมในหลาย ๆ ประเทศ เมื่อเทียบกับที่อื่น ๆ แต่แนวคิดในเรื่องการทำตลาดช้อปปิ้งออนไลน์ของแบรนด์ ทำให้สามารถครอบคลุมการซื้อ - ขาย ได้ถึง 70 ประเทศทั่วโลก
ทั้งหมดนี้ เป็นความลับที่อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของแบรนด์ Charles & Keith ที่รักษาจุดยืนและการทำการตลาดของทางแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ในการสร้างสรรค์สินค้าแฟชั่นคุณภาพสูง มีสไตล์ และราคาจับต้องได้ เพื่อผู้บริโภค โดยสินค้าของแบรนด์ครอบคลุมทั้ง รองเท้า กระเป๋า และเครื่องประดับ จึงทำให้แบรนด์ Charles & Keith เป็นแบรนด์ที่ครองใจผู้บริโภค จากหลาย ๆ ประเทศได้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
และสำหรับใคร ที่สนใจเรียนรู้เรื่องการทำการตลาดเพื่อก้าวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังหมุนอย่างรวดเร็วขอแนะนำ หลักสูตร Digital Marketing
เพราะจริงๆ แล้ว Digital Marketing ไม่ใช่เพียงการยิง Ads โฆษณา แต่มีองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งในส่วนของทฤษฎี การวิเคราะห์ และวางแผน ทุกอย่างให้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติของธุรกิจแต่ละประเภทที่แตกต่างกัน ช่องทางการขายของธุรกิจคุณเป็นอย่างไร และควรวางแผนสร้าง Content แบบไหน จึงจะดึงดูดลูกค้าได้ แล้วจึงไปวางแผนการยิง Ads โฆษณาว่า การตั้งงบประมาณ และจำกัดกลุ่มเป้าหมายอย่างไร จนถึงขั้นตอนสุดท้าย คือ การวิเคราะห์ผลที่ได้เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น
คอร์ส Digital Marketing
Reference :